พบหนามบนลิ้นแมวมีโครงสร้างพิเศษ

พบหนามบนลิ้นแมวมีโครงสร้างพิเศษ

Weekly News

นักวิทยาศาสตร์พบว่าหนามเล็ก ๆ ที่ทำให้ลิ้นแมวสากกระด้างจนสามารถเลียทำความสะอาดขนได้ดีนั้น มีโครงสร้างแตกต่างไปจากที่เคยคาดกันเอาไว้มาก ซึ่งลักษณะพิเศษนี้จะถูกนำไปเป็นต้นแบบประดิษฐ์แปรงอเนกประสงค์ ที่สามารถใช้ทำความสะอาดพรม หรือขจัดสารก่อภูมิแพ้ในขนแมวได้ ทีมนักวิจัยจากสถาบันเทคโนโลยีจอร์เจีย (จอร์เจียเทค) ของสหรัฐฯ ตีพิมพ์ผลการศึกษาล่าสุดลงในวารสาร PNAS โดยระบุว่าได้ตรวจสอบโครงสร้างและการทำงานของปุ่มลิ้น (Papillae) ที่มีลักษณะคล้ายหนามบนลิ้นแมวอย่างละเอียด ด้วยการใช้กล้องวิดีโอความเร็วสูงและเครื่องถ่ายภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (ซีทีสแกน) จนพบว่าหนามดังกล่าวมีลักษณะเป็นท่อกลวงและมีปลายคล้ายช้อนตัก ไม่ได้เป็นทรงกรวยทึบอย่างที่เคยคิดกันแต่อย่างใด หนามบนลิ้นแมวนั้นเป็นเคราติน (Keratin) ซึ่งก็คือโปรตีนชนิดหนึ่ง โดยท่อกลวงภายในหนามจะดูดเอาน้ำลายแมวขึ้นมาจากผิวลิ้นได้ 4.1 ไมโครลิตรในแต่ละครั้ง หรือราว 1 ใน 10 ของยาหยอดตา 1 หยด ซึ่งจะทำให้กระจายน้ำลายแมวลงบนขนได้มากเป็นพิเศษ ช่วยระบายความร้อนได้รวดเร็วและทำความสะอาดได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ทีมผู้วิจัยยังตรวจสอบลักษณะของหนามบนลิ้นของสัตว์ตระกูลแมวหลากหลายชนิด ตั้งแต่แมวบ้านไปจนถึงแมวป่า เสือ สิงโต และเสือดาวหิมะ ทำให้พบว่าสัตว์จำพวกแมวและเสือทุกชนิด มีขนาดและความยาวของหนามบนลิ้นเท่ากันหมด ไม่ว่าจะมีขนาดลำตัวและความยาวของขนมากน้อยเท่าใดก็ตาม “ในเวลาที่แมวเลียขน หนามบนลิ้นที่เป็นเสมือนแปรงจะแทรกลงไปในระหว่างเส้นขน ทำให้ทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง การที่แมวและเสือทุกชนิดมีขนาดของหนามบนลิ้นเท่ากัน แสดงว่าเป็นขนาดที่ธรรมชาติออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างดีที่สุดสำหรับพวกมันแล้ว” ดร. อเล็กซิส โนเอล หนึ่งในทีมผู้วิจัยกล่าว   “แมวจึงสะอาดอยู่เสมอและไม่มีกลิ่นเหม็นอย่างในสุนัข เว้นแต่แมวชนิดเดียวคือแมวเปอร์เซีย

Read more
Galaxy Note 10 อาจมีหน้าจอขนาดใหญ่ 6.66 นิ้ว

Galaxy Note 10 อาจมีหน้าจอขนาดใหญ่ 6.66 นิ้ว

Weekly News

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2009 หลังจาก HTC เปิดตัว HD2 หน้าจอ 4.3 นิ้ว หลายๆ คนกล่าวไว้ว่า หน้าจอของสมาร์ทโฟนคงจะใหญ่กว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว แต่อีกไม่กี่ปีต่อมา Samsung ก็ได้เปิดตัว Galaxy Note 5 หน้าจอขนาด 5.3 นิ้ว หลังจากนั้นอีกก็มี Galaxy Note 9 หน้าจอขนาด 6.4 นิ้ว และ iPhone XS Max หน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว รายงานจากเว็บไซต์ต่างประเทศเผยว่า Galaxy Note 10 จะมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 6.66 นิ้ว ความละเอียดสูงถึง 4K โดยตอนนี้ Galaxy Note 10 ถูกใช้โค้ดเนมว่า Davinci โมเดลที่ขายในสหรัฐอเมริกาจะใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8150 ตัวแรงล่าสุด (แต่ยังไม่เปิดตัว)

Read more
พบแบคทีเรียอาศัยอยู่ในสมองคนได้เหมือนกับในลำไส้

พบแบคทีเรียอาศัยอยู่ในสมองคนได้เหมือนกับในลำไส้

Weekly News

  แวดวงวิทยาศาสตร์กำลังมีการค้นพบใหม่ ๆ ออกมามากขึ้นเกี่ยวกับระบบ “ชีวนิเวศจุลชีพ” (Microbiome) หรือจุลินทรีย์ชนิดต่าง ๆ ที่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมพิเศษเช่นภายในร่างกายของคนเรา ซึ่งก็พบว่าสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กเหล่านี้มีอิทธิพลต่อสุขภาพ พันธุกรรม หรือแม้แต่อารมณ์ของมนุษย์อย่างคาดไม่ถึง นอกจากระบบชีวนิเวศจุลชีพในลำไส้ที่รู้จักกันดีอยู่แล้ว ยังมีการค้นพบว่าอวัยวะบางส่วนที่น่าจะปิดมิดชิดและปลอดเชื้ออย่างสมอง กลับกลายเป็นที่อยู่อาศัยของแบคทีเรียบางชนิดได้ ซึ่งจุลินทรีย์เหล่านี้อาจมีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มที่อาศัยอยู่ในลำไส้ด้วย ในการประชุมวิชาการ Neuroscience 2018 ของสมาคมเพื่อประสาทวิทยาศาสตร์ (SfN)ที่เมืองซานดิเอโกของสหรัฐฯ ทีมนักประสาทกายวิภาคจากมหาวิทยาลัยแอละแบมา ซึ่งนำโดย ดร. โรซาลินดา โรเบิร์ตส์ ได้นำเสนอหลักฐานเบื้องต้นจากการศึกษาชิ้นส่วนสมองของผู้เสียชีวิต 34 ราย ที่บ่งชี้ว่ามีแบคทีเรียอาศัยอยู่ในปริมาณที่มากน้อยแตกต่างกันไป ผู้วิจัยระบุว่า ชิ้นส่วนสมองในจำนวนนี้ครึ่งหนึ่งเป็นของผู้ป่วยโรคจิตเภท และอีกครึ่งหนึ่งเป็นของผู้ที่มีสุขภาพดีก่อนจะเสียชีวิต โดยพบแบคทีเรียรูปแท่งที่มีปลอกหุ้มอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นในส่วนเปลือกสมองของกลีบหน้าผากส่วนหน้า (Prefrontal cortex) สมองส่วนฮิปโปแคมปัส (Hippocampus ) และด้านในของสมองส่วนกลางที่เรียกว่า Substantia nigra รวมทั้งในเซลล์ Astrocytes ที่เพิ่งถูกค้นพบว่ามีบทบาทสำคัญต่อการสื่อสารระหว่างเซลล์ประสาทสมองด้วย แม้จะมีความเป็นไปได้ว่า เชื้อแบคทีเรียเหล่านี้เข้าไปอยู่ในสมองเพราะเกิดการปนเปื้อนระหว่างการผ่าตัดชันสูตรศพ แต่การที่มันแพร่กระจายเข้าไปอยู่ในระหว่างเนื้อเยื่อสมองส่วนต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง แสดงว่าอาจไม่ใช่เช่นนั้น นอกจากนี้ ทีมผู้วิจัยยังพบหลักฐานเพิ่มเติมซึ่งชี้ว่ามีระบบชีวนิเวศจุลชีพในสมองของหนูทดลองอีกด้วย ทั้งที่หนูดังกล่าวถูกเลี้ยงและเติบโตมาในสภาพแวดล้อมปลอดเชื้อ อย่างไรก็ตาม

Read more
พายุเฮอริเคนสสารมืดกำลังพัดกระหน่ำโลกและระบบสุริยะ

พายุเฮอริเคนสสารมืดกำลังพัดกระหน่ำโลกและระบบสุริยะ

Weekly News

ผลการคำนวณล่าสุดของนักดาราศาสตร์พบว่า มีกระแสของกลุ่มสสารมืด (Dark matter) ที่มองไม่เห็นและไม่อาจจะรู้สึกได้ด้วยการสัมผัส กำลังพัดกระหน่ำโลกและระบบสุริยะด้วยความเร็วถึง 500 กิโลเมตรต่อวินาที คล้ายกับพายุเฮอริเคนที่มีความรุนแรงเป็นอย่างยิ่ง การค้นพบดังกล่าวมาจากข้อมูลของกล้องโทรทรรศน์อวกาศกายอา (Gaia) ซึ่งตรวจพบว่าสายธารของกลุ่มดาวฤกษ์ (Stellar stream) ที่ชื่อว่า S1 ในกาแล็กซีทางช้างเผือก มีเส้นทางที่กำลังพุ่งเข้าปะทะกับระบบสุริยะอย่างจัง สายธารของกลุ่มดาวฤกษ์ S1 ประกอบไปด้วยดาวฤกษ์ราว 30,000 ดวง ซึ่งเป็นส่วนที่หลงเหลืออยู่จากดาราจักรแคระที่ถูกทำลายในอดีต ก่อนจะถูกดึงดูดเข้ามารวมอยู่เป็นส่วนหนึ่งของกาแล็กซีทางช้างเผือก ดร.เซียราน โอแฮร์ นักฟิสิกส์ทฤษฎีจากมหาวิทยาลัยซาราโกซาของสเปน ตีพิมพ์รายงานดังกล่าวในวารสาร Physical Review D. โดยระบุว่า แม้การพุ่งชนของสายธารกลุ่มดาวฤกษ์ดังกล่าวจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับโลกและระบบสุริยะ แต่อาจสันนิษฐานได้ว่าสายธารดังกล่าวได้พัดพาเอา “สสารมืด” ซึ่งเป็นโครงสร้างต้นกำเนิดของดาราจักรแคระในอดีตมาด้วย ปรากฏการณ์ดังกล่าวนับว่าเป็นโอกาสอันดีที่นักวิทยาศาสตร์จะได้พยายามตรวจจับและศึกษาสสารมืดอย่างใกล้ชิด เนื่องจากก่อนหน้านี้ยังไม่เคยมีการตรวจจับสสารมืดได้โดยตรงมาก่อน กว่า 80 ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ตั้งข้อสังเกตว่าจักรวาลน่าจะมีสสารอยู่มากกว่าที่เราสามารถสังเกตเห็นได้ โดยการเคลื่อนที่ของดวงดาวและกาแล็กซีบ่งชี้ว่า จักรวาลน่าจะมีสสารที่มองไม่เห็น หรือ “สสารมืด” เป็นองค์ประกอบรวมอยู่ด้วย ผลการศึกษาล่าสุดชี้ว่า จักรวาลประกอบไปด้วยพลังงานและสสารธรรมดาเพียง 4% แต่มีสสารมืดอยู่ 26% และพลังงานมืดอีก 70%

Read more
iPad Pro (2018) ได้คะแนน “กราฟิกสูงมาก”

iPad Pro (2018) ได้คะแนน “กราฟิกสูงมาก”

Weekly News

  จาดเดิมที่ iPad Pro (2018) ได้รับการทดสอบ Benchmark ด้วย Geekbench ได้อย่างน่าประทับใจ แซงหน้าอุปกรณ์ Mobile หลายรุ่นในตลาดปัจจุบันนี้ รวมถึงแล็ปท็อปด้วย แต่ล่าสุดจากการทดสอบด้วย AnTuTu ได้เปิดเผยอีกหนึ่งการทดสอบประสิทธิภาพที่ได้คะแนนสูงมาก iPad Pro (2018) หน้าจอ 11 นิ้ว เป็นอุปกรณ์ iOS รุ่นแรกที่ทำได้มากกว่า 500,000 คะแนน จากศักยภาพของชิปเซ็ต A12X Bionic จากคะแนนที่สูงถึง 557,679 คะแนนนั้น กว่าครึ่งมาจากหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ที่สูงถึง 315,108 คะแนน ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้ที่ชื่นชอบการเล่นเกม, ตกแต่งภาพ และตัดต่อวิดีโอบน iPad เป็นอย่ามาก ก่อนหน้านี้ อุปกรณ์ Android ที่ได้รับคะแนนสูงสุดจาก AnTuTu นั้น คือสมาร์ทโฟน Huawei ที่ใช้ชิป Kirin 980 ระดับ 7 นาโนเมตร โดยทำไปกว่า 300,000 คะแนน ทั้งนี้ ทางทีมงานของ AnTuTu ได้กล่าวว่า iPad

Read more
เรนเดอร์ Nokia 9 : เรือธง, กล้อง 5 ตัว, จอไร้ติ่ง

เรนเดอร์ Nokia 9 : เรือธง, กล้อง 5 ตัว, จอไร้ติ่ง

Weekly News

HMD Global ได้เริ่มพัฒนา Nokia 9 มาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2018 โดยล่าสุด  @OnLeans และ 91Mobiles ได้สร้างภาพเรนเดอร์แบบ 3 มิติ ขึ้น โดยอ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าวต่าง ๆ สิ่งที่เป็นจุดเด่นของ Nokia 9 คือกล้องหลัง 5 ตัว ซึ่งยังไม่ชัดเจนว่าจะใช้เลนส์ PureView ที่ HMD Global เพิ่งได้รับลิขสิทธิ์คืนจาก Microsoft หรือจะเป็นเลนส์ Zeiss กันแน่ จากภาพข้างต้น แสดงให้เห์นว่า Nokia 9 ไม่มีปุ่มโฮม และไม่มีเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือที่ด้านหลังตัวเครื่อง จึงมีความเป็นไปได้ว่าอาจได้รับการติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือบนหน้าจอ ซึ่งยังคงมีขอบบนและล่างหน้าจอให้เห็นอยู่ สเปคของ Nokia 9 (จากแหล่งข่าวต่าง ๆ) หน้าจอที่ 5.9 นิ้ว ความละเอียด QHD+ อัตราส่วน 18:9 ไม่มีส่วนเว้าด้านบนหน้าจอ ตัวเครื่องคาดว่ามีขนาด 155

Read more
มหาสมุทรดูดซับความร้อนของโลกไว้มากกว่าที่คาดถึง 60%

มหาสมุทรดูดซับความร้อนของโลกไว้มากกว่าที่คาดถึง 60%

Weekly News

  ทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันและสถาบันวิจัยสคริปส์ของสหรัฐฯ เผยผลการศึกษาล่าสุดในวารสาร Nature ซึ่งชี้ว่า มหาสมุทรทั่วโลกดูดซับความร้อนส่วนเกินจากปรากฏการณ์เรือนกระจกเอาไว้มากกว่าที่เคยคาดกันถึง 60% ทำให้ความพยายามที่จะหยุดยั้งภาวะโลกร้อนเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น ตลอดระยะเวลา 25 ปี ซึ่งอยู่ในช่วงระหว่างปี 1991-2016 ที่ผ่านมา ทีมผู้วิจัยพบว่ามหาสมุทรได้ดูดซับพลังงานความร้อนส่วนเกินของโลกไปถึงปีละกว่า 13 เซตตะจูล (Zettajoules) หรือเท่ากับหน่วยพลังงานที่มีค่าเป็นเลข 13 ตามด้วยเลขศูนย์ 21 ตัวพลังงานความร้อนดังกล่าวทำให้มหาสมุทรมีอุณหภูมิสูงขึ้นโดยเฉลี่ย 6.5 องศาเซลเซียสต่อรอบหนึ่งทศวรรษ ซึ่งนับว่าสูงกว่าค่าประมาณการของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ของสหประชาชาติ ที่เผยออกมาเมื่อปี 2014 ซึ่งค่าประมาณการเดิมคาดว่ามหาสมุทรมีอุณหภูมิสูงขึ้นโดยเฉลี่ย 4.5 องศาเซลเซียสต่อรอบหนึ่งทศวรรษ พลังงานความร้อนที่มหาสมุทรดูดซับจากพื้นผิวและบรรยากาศโลกในแต่ละปี คิดเป็น 150 เท่าของพลังงานที่ใช้ผลิตไฟฟ้าทั่วโลกในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งนับเป็นปริมาณความร้อนที่สูงกว่าค่าประมาณการเดิมถึง 60% ก่อนหน้านี้นักวิทยาศาสตร์ทราบเพียงว่า มหาสมุทรดูดซับความร้อนส่วนเกินที่เกิดจากภาวะโลกร้อนไปทั้งหมดราว 90% แต่ไม่ทราบถึงแนวโน้มตัวเลขของค่าพลังงานความร้อนในแต่ละปีอย่างแน่นอน ทำให้ยากที่จะประมาณการเพื่อวางแผนรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้อย่างถูกต้อง ดร. ลอร์ เรสแพลนดี ผู้นำทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันบอกว่า ผลการค้นพบนี้ทำให้น่าเป็นห่วงว่าประชาคมนานาชาติจะไม่สามารถบรรลุถึงเป้าหมายของ IPCC ซึ่งมุ่งควบคุมอุณหภูมิโลกไม่ให้เพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียสได้ “แผนการหยุดยั้งภาวะโลกร้อน ที่จะจำกัดไม่ให้อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นเกิน

Read more
กลุ่มเมฆฝุ่นโคจรรอบโลกเหมือนดาวบริวารมีอยู่จริง

กลุ่มเมฆฝุ่นโคจรรอบโลกเหมือนดาวบริวารมีอยู่จริง

Weekly News

ทีมนักดาราศาสตร์และนักฟิสิกส์ชาวฮังการี เผยหลักฐานยืนยันว่า “เมฆคอร์ดีเลฟสกี” (Kordylewski cloud) ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นวัตถุที่โคจรรอบโลกเหมือนกับดาวบริวารดวงหนึ่งนั้นมีอยู่จริง หลังจากที่ตกเป็นข้อถกเถียงมานานหลายทศวรรษ เมฆฝุ่นขนาดเล็กดังกล่าวซึ่งมีอยู่ 2 กลุ่ม โคจรอยู่ในจุดสมดุลแรงโน้มถ่วงหรือจุดลากรานเจียน (Lagrangian Point ) ตำแหน่ง L5 ซึ่งห่างจากโลกราว 400,000 กิโลเมตร ซึ่งในจุดนี้แรงโน้มถ่วงจากโลกและดวงจันทร์จะมีค่าเท่ากับแรงหนีศูนย์กลางที่กระทำต่อวัตถุที่สามที่มีขนาดเล็กกว่า ทำให้สามารถยึดตรึงวัตถุนั้นไว้ในตำแหน่งดังกล่าวได้ ชื่อของกลุ่มเมฆฝุ่นปริศนานี้เรียกตามชื่อของนักวิทยาศาสตร์ชาวโปแลนด์ คาชีเมียร์ซ คอร์ดีเลฟสกี (Kazimierz Kordylewski ) ซึ่งเป็นผู้เสนอถึงการมีอยู่ของมันต่อวงการดาราศาสตร์ในปี 1961 แต่อย่างไรก็ตาม การที่เมฆคอร์ดีเลฟสกีดูเลือนรางและสังเกตได้ยากมากบนท้องฟ้า ทำให้ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากเห็นว่าวัตถุอวกาศนี้ไม่น่าจะมีอยู่จริง รายงานการค้นพบโดยทีมผู้วิจัยจากมหาวิทยาลัย Eötvös Loránd ของฮังการี ตีพิมพ์ในวารสารรายเดือนของราชสมาคมดาราศาสตร์แห่งสหราชอาณาจักรฉบับล่าสุด โดยระบุว่าแม้จุดลากรานเจียนตำแหน่ง L5 จะไม่สู้มีความเสถียรมากนัก เพราะได้รับอิทธิพลจากแรงโน้มถ่วงของดวงอาทิตย์ด้วย แต่ก็เป็นจุดที่สามารถรวบรวมฝุ่นในห้วงอวกาศให้เป็นกลุ่มเป็นก้อนได้ มีการสร้างแบบจำลองคอมพิวเตอร์เพื่อทำนายถึงตำแหน่งของเมฆคอร์ดีเลฟสกีบนท้องฟ้า จากนั้นผู้วิจัยได้ถ่ายภาพตำแหน่งดังกล่าวด้วยกล้องที่มีระบบตรวจจับแสงโพลาไรซ์ชนิดพิเศษ ปรากฏว่าพบแสงโพลาไรซ์สะท้อนออกมาจากบริเวณที่เป็นเป้าหมายของการพิสูจน์อย่างชัดเจน ซึ่งยืนยันถึงการมีอยู่ของกลุ่มเมฆฝุ่นที่เป็นปริศนามาเกือบ 60 ปี ดร. ยูดิต สลีซ บาลอกห์ ผู้นำทีมวิจัยบอกว่า “เมฆคอร์ดีเลฟสกีเป็นหนึ่งในวัตถุอวกาศที่ระบุตำแหน่งได้ยากที่สุด แม้จะอยู่ใกล้โลกในระยะห่างเท่ากับดวงจันทร์ก็ตาม

Read more
พบภูเขาน้ำแข็งทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสมบูรณ์แบบในธรรมชาติ

พบภูเขาน้ำแข็งทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสมบูรณ์แบบในธรรมชาติ

Weekly News

  องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือนาซา เผยภาพของภูเขาน้ำแข็งรูปทรงคล้ายโต๊ะสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดยักษ์ ลอยอยู่ในทะเลเวดเดลล์ (Weddell Sea) นอกชายฝั่งของทวีปแอนตาร์กติกา ภูเขาน้ำแข็งนี้มีรูปทรงแปลกตา เพราะก่อตัวเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าอย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งเป็นรูปทรงที่หาพบได้ยากในธรรมชาติ ทั้งยังมีผิวหน้าเรียบสนิทและมีมุมแหลมเป็นมุมฉาก 90 องศา ซึ่งแสดงว่าเพิ่งแยกตัวออกมาจากหิ้งน้ำแข็งใหญ่ได้ไม่นาน และยังไม่ถูกคลื่นลมในทะเลทำให้รูปร่างเปลี่ยนแปลงไปมากนัก ทีมนักวิทยาศาสตร์ขององค์การนาซา ซึ่งอยู่บนเครื่องบินสำรวจที่ออกปฏิบัติการเหนือบริเวณชายฝั่งของทวีปแอนตาร์กติกาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สามารถบันทึกภาพภูเขาน้ำแข็งนี้ไว้ได้และนำออกเผยแพร่ทางทวิตเตอร์ คาดว่าภูเขาน้ำแข็งดังกล่าวเป็นชิ้นส่วนที่แตกออกมาจากหิ้งน้ำแข็งลาร์เซน ซี (Larsen C ) บนคาบสมุทรแอนตาร์กติก ซึ่งเป็นหิ้งน้ำแข็งสำคัญที่กำลังพังทลายลงอย่างรวดเร็วเนื่องจากภาวะโลกร้อน ทีมนักวิจัยของนาซาประมาณการว่า ภูเขาน้ำแข็งรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้านี้น่าจะมีความกว้างกว่า 1.6 กิโลเมตร และมีส่วนฐานที่จมอยู่ใต้ทะเลขนาดมหึมา โดยส่วนยอดรูปสี่เหลี่ยมที่โผล่พ้นน้ำนั้นคิดเป็นเพียง 10% ของมวลน้ำแข็งทั้งหมด ดร. เคลลี บรันต์ นักวิทยาธารน้ำแข็ง (Glaciologist) ของนาซาจากมหาวิทยาลัยแมริแลนด์บอกว่า เคยมีผู้พบภูเขาน้ำแข็งรูปร่างแบบนี้มาก่อนแล้ว และมีชื่อเฉพาะที่ใช้เรียกกันว่า “ภูเขาน้ำแข็งรูปโต๊ะ” (Tabular iceberg) โดยกระบวนการที่ภูเขาน้ำแข็งนี้ก่อตัวขึ้น จะคล้ายกับปลายเล็บที่แตกออกเมื่อเล็บมือเล็บเท้าเริ่มมีความยาวมากเกินไป ซึ่งชิ้นส่วนที่แตกออกมามักเป็นรูปทรงเรขาคณิต ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ที่ได้เห็นภาพภูเขาน้ำแข็งดังกล่าว ต่างแสดงความเห็นว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อที่มีก้อนน้ำแข็งขนาดยักษ์รูปทรงเหลี่ยมสมบูรณ์เกิดขึ้นในธรรมชาติ เพราะมันดูคล้ายกับว่ามีมนุษย์ต่างดาวหรือองค์กรลับ แอบใช้เทคโนโลยีระดับสูงตัดน้ำแข็งมาวางทิ้งเอาไว้มากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าปรากฏการณ์นี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เองในธรรมชาติอย่างแน่นอน ที่มา

Read more
ยอดจอง iPhone XR น้อยกว่า iPhone XS

ยอดจอง iPhone XR น้อยกว่า iPhone XS

Weekly News

เมื่อเดือนกันยายน 2018 ที่ผ่านมา Apple ได้เปิดตัว iPhone XR ซึ่งเป็นรุ่นรองจากเรือธงอย่าง iPhone XS และ XS Max แต่มีสเปคที่โดดเด่น ทั้งราคาถูกกว่า, หน้าจอที่ใหญ่กว่า iPhone XS, ใช้ชิปเซ็ต A12 Bionic เหมือนกัน, และมีโมดูลกล้องหลังตัวเดียวกับที่ใช้ใน iPhone XS และ XS Max ด้วย โดยสื่อต่าง ๆ ได้การคาดการณ์ว่า iPhone XR อาจได้รับความนิยมมากกว่า iPhone XS เสียอีก เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2018 ที่ผ่านมา ได้เริ่มมีการจอง iPhone XR อย่างเป็นทางการ (ในสหรัฐอเมริกา) แต่ดูเหมือนว่ากระแสความนิยมจะไม่สูงมากอย่างที่หลายฝ่ายได้คาดการณ์ไว้ ล่าสุด นักวิเคราะห์ผลิตภัณฑ์ Apple ชื่อดัง Ming-Chi Kuo ได้กล่าวยืนยันว่า

Read more

Rate Us

Rate our Website !!

Links

SDalumni PTAD St.John Bosco's Bicentenary SAVIO ESPRESSO

CONTACT US

โรงเรียนเซนต์ดอมินิก
1526 ถนน เพชรบุรีตัดใหม่ แขวง มักกะสัน เขต ราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
E-mail : [email protected]
Tel. 02-652-7477-80 Fax. 02-652-7777
Saint Dominic School