Huawei เผย สมาร์ทโฟนรุ่นต่อไปจะถ่ายรูปได้เหมือน DSLR!

Huawei เผย สมาร์ทโฟนรุ่นต่อไปจะถ่ายรูปได้เหมือน DSLR!

Weekly News

ในงาน CES 2018 ที่ผ่านมา Huawei ประกาศวางจำหน่าย Huawei Mate 10 Pro ในสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ แต่ไม่ใช่เพียงแค่นั้น จากการสัมภาษณ์ Richard Yu CEO ของ Huawei ยังแง้มข้อมูลของสมาร์ทโฟนรุ่นต่อไปอีกด้วย ช่วงท้ายของ Keynote, Richard Yu ได้ให้สัมภาษณ์กับทาง AndroidAuthority ว่า เทคโนโลยีกล้องและ AI เป็นสิ่งที่สำคัญในวงการอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนที่ทุกบริษัทต่างให้ความสนใจ และแน่นอนว่า Yu สนใจระบบ DSLR อย่างทางยาวโฟกัสหรือระบบซูมมาใช้บนสมาร์ทโฟนซึ่งจะช่วยให้ประสบการณ์การถ่ายภาพดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งจะมีการพัฒนาร่วมกับ Leica ถึงแม้ว่าบริษัทจะนำระบบการใช้งานจาก DSLR มาไว้บนสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นต่อไปซึ่งอาจจะเป็น Huawei P20 นั้น Huawei ก็ไม่ใช่ค่ายแรกที่ทำกล้องสมาร์ทโฟนในลักษณะนี้เป็นค่ายแรก ก่อนหน้านี้เองก็มี Panasonic CM1 และ Nokia 1020 ที่ทำมาก่อนแล้ว   ที่มา – https://www.beartai.com/news/mobilenews/216828 VIEW

Read more
แว่นตากันแดด สามารถถ่ายวิดีโอระดับ HD

แว่นตากันแดด สามารถถ่ายวิดีโอระดับ HD

Weekly News

  ปี 2016 Snapchat เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ชื่อ Spectacles หรือก็คือแว่นกันแดดที่สามารถถ่ายวิดีโอได้ โดยมีราคาอยู่ที่ $129.99 สามารถถ่ายวิดีโอนาน 10 วินาทีได้เมื่อกดปุ่มอัดคลิป โดยคลิป 30 วินาทีสามารถถ่ายและอัพโหลดลง Social media ได้ เดือนตุลาคมที่ผ่านมาบริษัทเผยว่า ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้มียอดขายสูงถึง 150,000 ชิ้น ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 50% ในตอนนี้ Acton ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตสเกตบอร์ดได้ยื่นข้อเสนอในการสร้างแว่นกันแดดรุ่นใหม่ ใช้ชื่อว่า ACE Eyewear มีความสามารถในการอัดวิดีโอความละเอียดสูง ถ่ายรูป และถ่ายทอดสดบน Social media ได้ โดย Peter Treadaway ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทได้กล่าวว่า แว่นกันแดดชนิดนี้มีความเป็นไปได้ที่จะเป็นที่นิยม แต่ยังไม่สามารถขายได้ตอนนี้ เพราะต้องการการออกแบบให้มีลักษณะที่คนทั่วไปอยากจะใส่ กล้องที่ใช้ติดตั้งเซ็นเซอร์ 8 ล้านพิกเซล และสามารถถ่ายมุมกว้างถึง 120 องศา อัดวิดีโอความละเอียดสูงได้นาน 40 นาที เพราะมีความจุ 4GB และมีแบตเตอรีสำหรับการใช้งานนานถึง

Read more
เปิดตัว Osmo Mobile รุ่นสอง

เปิดตัว Osmo Mobile รุ่นสอง

Weekly News

  ถ้าใครจำกันได้เมื่อเดือนกันยายน 2016 ที่ผ่านมา DJI ผู้นำโดรนถ่ายภาพได้เปิดตัว Osmo Mobile กิมบอลสำหรับสมาร์ตโฟน สำหรับผู้ที่ชอบถ่ายภาพหรือทำไลฟ์ผ่านโซเชียลด้วยสมาร์ตโฟน มีจุดเด่นที่เบา พกพาง่าย และใช้ได้นานเมื่อเทียบกับ Osmo Camera ล่าสุด ในงาน “CES2018” ที่อเมริกา DJI ก็ได้เปิดตัว “Osmo Mobile 2” กิมบอลสมาร์ตโฟนในรุ่นที่สอง ซึ่งมีการอัปเกรดให้สวยขึ้น ใช้งานดีขึ้น และมีองศากว้างขึ้นกว่าเดิม แล้วรุ่นใหม่ดีกว่ารุ่นเดิมอย่างไร? เริ่มต้นที่ดีไซน์ของตัวเครื่องก่อนเลย ดีไซน์ไม่ต่างจากรุ่นแรกมากเท่าไหร่นัก แต่มีจุดที่แตกต่างที่สามารถสังเกตได้ ก็คือ ไฟแสดงสถานะแบตเตอรี่บนด้ามจับ ที่มีบอกถึงสี่จุด ต่างจากรุ่นเดิมที่มีจุดเดียว แต่เป็นการเปลี่ยนสีเพื่อสื่อถึงสถานะของแบตว่ายังมีไฟ หรือหมดไฟแล้ว จุดต่อมาก็คือ การควบคุมตัวเครื่อง รุ่นก่อนจะมีแค่ปุ่มถ่ายภาพนิ่ง, ปุ่มถ่ายภาพวิดีโอ และคันโยกที่สามารถควบคุมการแพน และมุมก้ม-มุมเงย (ซึ่งสามารถสั่งซูมภาพได้ถ้าถ่ายผ่านแอป DJI Go และสมาร์ตโฟนซิงค์กับบลูทูธ) คราวนี้ DJI ทำปุ่มซูมแยกออกมาต่างหาก สามารถซูมภาพได้ง่ายขึ้น ซึ่งแทบไม่ต้องใช้นิ้วมือของคุณไปถ่างจอซูมจนกลัวมือลั่นเผลอกดจบไลฟ์ รวมถึงตัวหนีบ หรือช่องเสียบสมาร์ตโฟน รุ่นนี้สามารถจับถ่าง

Read more
Apple ปล่อยอัปเดต iOS และ macOS เวอร์ชั่นใหม่

Apple ปล่อยอัปเดต iOS และ macOS เวอร์ชั่นใหม่

Weekly News

  ก่อนหน้านี้ Apple ได้ยืนยันแล้วว่าอุปกรณ์กลุ่ม iOS และ macOS ได้รับผลกระทบจากช่องโหว่ของ CPU ได้แก่ Meltdown และ Spectre ยกเว้น Apple Watch เท่านั้นที่ไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ทั้งสิ้น ล่าสุด Apple ได้ปล่อยอัปเดต iOS 11.2.2 และ macOS 10.13.2 เพื่ออัปเดทป้องกันช่องโหว่จาก Spectre โดยการอัปเดต Safari ของทั้งสองระบบปฏิบัติการ ส่วน macOS ที่เก่ากว่าอย่าง macOS Sierra หรือ El Capitan ก็ได้รับอัปเดต Safari เป็นเวอร์ชั่น 11.0.2 เช่นเดียวกันครับ ย้ำอีกครั้งว่า การแก้ปัญหาในตอนนี้ทำได้เพียงใช้ซอฟท์แวร์แก้ปัญหาไปก่อนเท่านั้น แต่ไม่ได้แก้ที่ฮาร์ดแวร์อย่างสมบูรณ์แบบครับ สำหรับ iOS สามารถอัปเดตได้ผ่าน Settings > General > Software Update

Read more
Apple ชี้แจง เปลี่ยนแบตเตอรี่ราคา 1,000 บาท

Apple ชี้แจง เปลี่ยนแบตเตอรี่ราคา 1,000 บาท

Weekly News

  อย่างที่ทราบกันว่า Apple ได้เปิดโปรแกรมให้ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ iPhone ที่เสื่อมได้ในราคา $29 ซึ่งในประเทศไทยนั้นจะมีราคาอยู่ที่ 1,000 บาท แต่ Apple ก็ได้ประกาศอีกหนึ่งเงื่อนไขครับ สำหรับ iPhone ที่จะสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้นั้น จะได้เฉพาะ iPhone 6 ขึ้นไป ไม่รวม iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X และอีกหนึ่งเงื่อนไขคือ iPhone หนึ่งเครื่องจะเปลี่ยนได้ 1 ครั้งเท่านั้น หากต้นปีนี้ผู้ใช้งานนำเครื่องไปเปลี่ยนแบตเตอรี่มาแล้ว พบว่าแบตเสื่อมอีกในปลายปี ผู้ใช้งานจะต้องเสียราคาปกติไม่สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ราคา 1,000 ในครั้งที่สองครับ ดังนั้น หากใครรู้สึกว่าแบตเสื่อมแล้ว แต่ยังพอทนไหวก็อาจจะใช้ของเดิมไปก่อน พอใกล้หมดโครงการประมาณเดือน ตุลาคม-พฤศจิกายน ก็ค่อยนำเครื่องไปเปลี่ยนแบตเตอรี่อีกครั้งก็ไม่สายครับ ที่มา : https://www.beartai.com/news/mobilenews/216046 VIEW MORE

Read more
หุ่นยนต์ยักษ์ที่ขึ้นนั่งบังคับได้ใกล้ความจริงแล้วหรือยัง

หุ่นยนต์ยักษ์ที่ขึ้นนั่งบังคับได้ใกล้ความจริงแล้วหรือยัง

Weekly News

ความฝันอย่างหนึ่งของผู้ชื่นชอบภาพยนตร์การ์ตูนหรือแอนิเมชันที่ว่าด้วยโลกอนาคต คือการได้มีโอกาสบังคับหุ่นยนต์รบที่มีรูปร่างคล้ายคนขนาดยักษ์ หรือที่เรียกกันว่า “เมค” (Mech) แต่เทคโนโลยีที่ว่านี้มีการพัฒนาไปถึงขั้นไหนแล้วในปัจจุบัน และใกล้จะนำมาให้มนุษย์ใช้งานได้จริงแล้วหรือไม่ ? นายร็อบ บักกิงแฮม ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์วิทยาศาสตร์คาแลม (Culham Science Center ) ของสหราชอาณาจักรบอกว่า รูปร่างมนุษย์นั้นน่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับการนำมาเป็นต้นแบบของหุ่นยนต์ เนื่องจากมีลักษณะทางการยศาสตร์ (Ergonomics) หรือการเคลื่อนไหวทำงานที่มีประสิทธิภาพสูง เช่นทหารที่มีร่างกายกำยำสามารถแบกของที่หนักกว่าตนเองหลายเท่าไปในสภาพภูมิประเทศแบบต่าง ๆ ได้ แต่อย่างไรก็ตาม การที่มนุษย์เดินด้วยสองขาเป็นหลัก ทำให้หุ่นยนต์เลียนแบบมนุษย์หรือฮิวแมนนอยด์ขนาดใหญ่เท่าอาคารสูงเคลื่อนไหวไปไหนมาไหนได้อย่างคล่องตัว หรือทรงตัวเอาไว้ในทุกสถานการณ์ได้ยากมาก แม้จะใช้ไจโรสโคปเซนเซอร์ (Gyroscope sensor) ช่วยในการทรงตัวแล้วก็ตาม ขนาดที่ใหญ่โตของมันจะทำให้เกิด “ปรากฏการณ์รองเท้าส้นสูง” ที่น้ำหนักมหาศาลจะถ่ายลงที่จุดเดียวคือสองเท้าของมันเท่านั้น ซึ่งอาจทำให้ต้องติดหล่มโคลนหรือติดกับพื้นที่ยุบลงไปใต้ฝ่าเท้าได้   ศาสตราจารย์เสธู วิจะยะกุมาร์ แห่งสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์เอดินบะระ (Edinburgh Center of Robotics) บอกว่า การประดิษฐ์หุ่นยนต์ “เมค” ขนาดใหญ่ที่มีคนขึ้นนั่งบังคับนั้น แม้จะมีความเป็นไปได้มากกว่าการประดิษฐ์หุ่นยนต์แบบเดียวกันที่เป็นระบบอัตโนมัติทั้งหมด แต่การควบคุมบังคับระยะไกลจากคำสั่งของมนุษย์ไปสู่ระบบเครื่องกลในอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของหุ่นยนต์ก็ยังคงมีปัญหามากอยู่ “เราต้องสร้างระบบสื่อสารคำสั่งที่มีประสิทธิภาพสูงมาก ต้องประมวลผลได้รวดเร็วไม่ต่ำกว่า 500,000 ครั้งต่อวินาที

Read more
เอกภพเต็มไปด้วยดวงจันทร์ที่ถูกเหวี่ยงทิ้งออกจากระบบ

เอกภพเต็มไปด้วยดวงจันทร์ที่ถูกเหวี่ยงทิ้งออกจากระบบ

Weekly News

ดวงจันทร์บริวารที่โคจรรอบดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะ (Exomoon) นั้นเป็นสิ่งที่หาได้ยากมาก โดยในปัจจุบันนักดาราศาสตร์เพิ่งพบร่องรอยของดวงจันทร์บริวารแบบดังกล่าวเพียงดวงเดียว และยังไม่มีการพิสูจน์ยืนยันอย่างแน่ชัดว่ามีอยู่จริงหรือไม่ ทำให้เกิดข้อสงสัยกันว่า เหตุใดดวงจันทร์นอกระบบสุริยะจึงหาพบได้ยากนัก ก่อนหน้านี้นักดาราศาสตร์ระบุว่า การที่ดวงจันทร์นอกระบบสุริยะมีขนาดเล็กและตั้งอยู่ห่างไกลจากโลกเป็นอย่างมาก ทำให้เป็นเรื่องยากที่จะค้นพบ แต่อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่าดวงจันทร์นอกระบบสุริยะนั้นอาจมีอยู่น้อยมากหรือแทบจะไม่มีเลย ซึ่งรายงานการวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Astrophysical Journal ชี้ว่า ดวงจันทร์เหล่านี้ส่วนใหญ่อาจถูกเหวี่ยงจนหลุดลอยออกจากวงโคจรรอบดาวเคราะห์ของตน และกลายเป็นอดีตดวงจันทร์บริวาร (Ex-moon) ไปในที่สุด น.ส. หง ยู่เซียน นักศึกษาระดับปริญญาเอกของมหาวิทยาลัยคอร์แนลในสหรัฐฯ ได้ใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์ศึกษาสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อระบบสุริยะอื่น ๆ ในเอกภพเกิดความปั่นป่วนในระยะแรกก่อตัว ซึ่งในช่วงเวลาเช่นนี้ดาวเคราะห์ในระบบอาจมีวงโคจรที่ผันผวนและเฉียดเข้าใกล้ดาวเคราะห์อีกดวงหนึ่งได้ ส่งผลให้ดวงจันทร์บริวารของดาวเคราะห์ที่อยู่รอบนอกถูกเหวี่ยงจนหลุดออกนอกระบบไปได้ง่าย ๆ ผู้วิจัยเผยว่า มีโอกาสถึง 41% ที่ดวงจันทร์นอกระบบสุริยะจะถูกเหวี่ยงหลุดออกจากวงโคจรของดาวเคราะห์เดิม และออกไปลอยเคว้งคว้างอยู่ในห้วงอวกาศเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็จะทำให้พวกมันไม่ได้เป็นดวงจันทร์บริวารอีกต่อไป อันอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้นักดาราศาสตร์ไม่สามารถค้นหาดวงจันทร์นอกระบบสุริยะพบได้ การที่อดีตดวงจันทร์บริวารถูกเหวี่ยงให้ออกไปล่องลอยอยู่อย่างไร้จุดหมาย เป็นสถานการณ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกรณีของดาวเคราะห์ก๊าซขนาดยักษ์ ซึ่งมีแรงดึงดูดเปลี่ยนแปลงผันผวนบ่อยจนส่งผลให้วงโคจรมีความไม่แน่นอนได้เป็นครั้งคราว อันเป็นสาเหตุให้สูญเสียดวงจันทร์บริวารไปได้ง่าย อย่างไรก็ตาม อดีตดวงจันทร์บริวารที่หลุดลอยไปในห้วงอวกาศนี้ มีโอกาสจะถูกแรงดึงดูดของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะอื่นจับเอาไว้อีกได้ เช่นในกรณีของดวงจันทร์ไทรทัน (Triton) ของดาวเนปจูนนั้น มีร่องรอยที่ชี้ว่าอาจเป็นอดีตดาวบริวารของระบบอื่นที่ล่องลอยเข้ามาอยู่ในระบบสุริยะของโลก และได้คืนสถานะกลับเป็นดวงจันทร์บริวารอีกครั้ง แต่สถานการณ์เช่นนี้มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมากเพียง 2% เท่านั้น   ที่มา

Read more
พบระบบสุริยะใหม่ “แทรปปิสต์–วัน” คาดมีน้ำ

พบระบบสุริยะใหม่ “แทรปปิสต์–วัน” คาดมีน้ำ

Weekly News

นาซาประกาศการค้นพบระบบสุริยะใหม่ “แทรปปิสต์ – วัน” (Trappist-1) ซึ่งอยู่ห่างจากโลก 40 ปีแสง ประกอบไปด้วยดาวเคราะห์ขนาดใกล้เคียงกับโลก 7 ดวง ซึ่งในจำนวนนี้ 3 ดวงอยู่ในระยะห่างที่เหมาะสมจากดาวฤกษ์ศูนย์กลางซึ่งเอื้อต่อการมีสิ่งมีชีวิต ทั้งคาดว่าอาจมีน้ำบนพื้นผิวดาวเหล่านี้ด้วย ผลการค้นพบดังกล่าวตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสารเนเจอร์โดยระบุว่า กล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์ของนาซาได้พบระบบสุริยะที่ดาวฤกษ์ศูนย์กลางมีมวลต่ำและมีอุณหภูมิไม่สูงนัก ส่วนดาวเคราะห์เจ็ดดวงที่โคจรล้อมรอบต่างเรียงตัวในระยะที่ไม่สู้ห่างจากกัน คล้ายกับการเรียงตัวของดวงจันทร์บริวารของดาวพฤหัสบดี     ศาสตราจารย์ไมเคิล กิลลอน หนึ่งในคณะนักดาราศาสตร์ผู้ค้นพบระบบสุริยะนี้บอกว่า การที่ดาวฤกษ์ศูนย์กลางมีอุณหภูมิค่อนข้างต่ำ ทำให้ดาวเคราะห์สามดวงในระบบมีอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการมีน้ำบนพื้นผิว และมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตได้ ซึ่งความเป็นไปได้นี้ขึ้นอยู่กับว่าดาวเคราะห์ดังกล่าวมีความดันบรรยากาศในระดับที่เพียงพอด้วยหรือไม่ ซึ่งจะต้องสำรวจค้นคว้ากันต่อไป ด้านศาสตราจารย์บริซ-โอลิเวอร์ เดมอรี หนึ่งในคณะผู้ค้นพบระบบสุริยะ แทรปปิสต์-วัน บอกว่า มีความเป็นไปได้ในอนาคตที่จะใช้กล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์เว็บบ์ ซึ่งจะถูกนำมาใช้งานแทนที่กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล ในการมองหาร่องรอยโมเลกุลของโอโซนในบรรยากาศของดาวในระบบสุริยะใหม่นี้ ซึ่งโอโซนจะเป็นตัวบ่งชี้ว่ามีความเคลื่อนไหวทางชีววิทยาของสิ่งมีชีวิตบนดาวอยู่   ที่มา – http://www.bbc.com/thai/international-39060924   VIEW MORE

Read more
กรดไขมันจากของทอดช่วยเมฆก่อตัว ทำให้อากาศเย็นลงได้

กรดไขมันจากของทอดช่วยเมฆก่อตัว ทำให้อากาศเย็นลงได้

Weekly News

  โมเลกุลจากกรดไขมันซึ่งได้จากการทอดอาหารโดยทั่วไปสามารถจับตัวกับอนุภาคขนาดเล็กต่าง ๆ ในบรรยากาศ กลายเป็นละอองลอยที่ช่วยให้กลุ่มเมฆก่อตัวได้ง่ายขึ้น และอาจมีผลทำให้สภาพอากาศเย็นลงได้ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเรดดิงในสหราชอาณาจักร ตีพิมพ์เผยแพร่ผลการวิจัยดังกล่าวในวารสาร Nature Communications โดยระบุว่าได้ทำการทดลองพิสูจน์คุณสมบัติของกรดไขมัน เมื่อมีสถานะเป็นละลองลอยในบรรยากาศ (Atmospheric Aerosol) เปรียบเทียบกับละอองน้ำเกลือ มีการใช้เครื่องผลิตคลื่นเหนือเสียง ทำให้หยดของกรดโอเลอิกซึ่งเป็นกรดไขมันชนิดหนึ่งลอยตัวขึ้น แล้วจึงยิงด้วยลำแสงเลเซอร์และรังสีเอ็กซ์ ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเผยให้ทราบว่า โครงสร้างโมเลกุลของกรดไขมันในสถานะละอองลอยในบรรยากาศ มีการเรียงตัวแบบ 3 มิติที่แข็งแกร่ง ทำให้ละอองลอยนั้นมีความหนืดและคงตัวอยู่ได้เป็นเวลานาน ซึ่งจะช่วยให้จับตัวกับอนุภาคอื่น ๆ ในอากาศและก่อตัวเป็นเมฆได้ง่ายขึ้น   มีแนวโน้มว่า เมฆที่เกิดจากการก่อตัวของละอองลอยในบรรยากาศที่มีกรดไขมันเป็นส่วนประกอบนี้ จะสามารถทำให้อากาศเย็นลงได้ เนื่องจากละอองลอยในบรรยากาศส่วนใหญ่สามารถสะท้อนพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ที่ส่งมายังโลก ให้กลับออกไปในอวกาศได้ถึง 1 ใน 4 แต่เรื่องนี้ยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่ เพราะละอองลอยในบรรยากาศบางชนิดก็ดูดซับแสงอาทิตย์เอาไว้ดร. คริสเตียน ฟรัง ผู้นำทีมวิจัยบอกว่า ยังคงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมต่อไปอีก ในเรื่องที่ว่ากรดไขมันจะช่วยให้เมฆที่ทำให้อากาศเย็นก่อตัวได้อย่างแน่นอนหรือไม่ และเขาไม่คิดว่าจะสามารถนำกรดไขมันจากน้ำมันทอดอาหารมาใช้เป็นเครื่องมือทางวิศวกรรมภูมิอากาศเพื่อช่วยลดโลกร้อนได้ในเร็ววันนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่า โมเลกุลของกรดไขมันเป็นองค์ประกอบที่มีอยู่เป็นปริมาณมากในชั้นบรรยากาศของเมืองใหญ่ เช่นที่กรุงลอนดอนของสหราชอาณาจักรมีโมเลกุลของกรดไขมันในอากาศอยู่ถึง 10% ซึ่งจัดว่าเป็นปริมาณค่อนข้างสูง และโดยส่วนใหญ่แล้วมาจากการประกอบอาหาร   ที่มา – http://www.bbc.com/thai/international-42094264  

Read more
สนามแม่เหล็กเปลี่ยนรสนิยมทางดนตรีได้ในพริบตา

สนามแม่เหล็กเปลี่ยนรสนิยมทางดนตรีได้ในพริบตา

Weekly News

  นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแมคกิลล์ในแคนาดา ทำการทดลองที่พิสูจน์ว่า รสนิยมทางดนตรีของแต่ละคนสามารถจะถูกเปลี่ยนแปลงได้ในชั่วพริบตา โดยใช้กระแสไฟฟ้าจากสนามแม่เหล็กเหนี่ยวนำสมองบางส่วน ทำให้รู้สึกชอบเสียงดนตรีที่ได้ฟังมากขึ้นหรือน้อยลงได้ ผู้ทำการทดลองจัดให้อาสาสมัคร 17 คน ฟังคลิปเสียงดนตรีหลากหลายประเภทจากคอมพิวเตอร์ และบอกกับอาสาสมัครด้วยว่าสามารถสั่งซื้อคลิปเพลงที่ชอบได้ตามอัธยาศัย จากนั้นได้ให้อาสาสมัครพิจารณาให้คะแนนความพึงพอใจต่อคลิปเสียงดนตรีที่ได้ฟังแต่ละเพลงด้วย ในขั้นตอนต่อไป นักวิทยาศาสตร์ได้ให้อาสาสมัครฟังเพลงอีกครั้ง แต่คราวนี้ได้ใช้อุปกรณ์สร้างสนามแม่เหล็กมาเหนี่ยวนำให้เกิดกระแสไฟฟ้า เพื่อกระตุ้นหรือกดการทำงานของสมองในบริเวณจำกัด ซึ่งเป็นวิธีการที่เรียกว่า Transcranial Magnetic Stimulation (TMS) การทำเช่นนี้ต่อบริเวณสมองส่วนหน้าที่อยู่ด้านบน (Dorsolateral Prefrontal Cortex – DLPFC ) ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมกระบวนการใช้เหตุผล การวางแผน ความจำ และการยับยั้งชั่งใจ ได้ทำให้พฤติกรรมและความชื่นชอบในการฟังดนตรีของอาสาสมัครเปลี่ยนไป โดยเมื่อใช้สนามแม่เหล็กกระตุ้นสมองส่วน DLPFC มีการให้คะแนนชื่นชอบเพลงที่ได้ฟังเพิ่มขึ้นอย่างมาก ทั้งจ่ายเงินซื้อคลิปเพลงที่ตนไม่ชอบจากการฟังครั้งแรกเพิ่มขึ้น 10% ด้วย   อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้สนามแม่เหล็กกดการทำงานของสมองส่วนดังกล่าว พบว่ามีการให้คะแนนกับเพลงต่าง ๆ ที่ได้ฟังลดลง และอาสาสมัครจ่ายเงินซื้อคลิปเพลงน้อยลงถึง 15% ดร. โรเบิร์ต ซาทอร์เร ผู้นำทีมวิจัยในครั้งนี้บอกว่า ก่อนหน้านี้เคยมีการค้นพบมาแล้วว่าการกระตุ้นสมองส่วน DLPFC ด้วยสนามแม่เหล็ก จะทำให้การหลั่งสารโดพามีนของสมองเปลี่ยนแปลงไปได้

Read more

Rate Us

Rate our Website !!

Links

St.John Bosco's Bicentenary SAVIO ESPRESSO

CONTACT US

โรงเรียนเซนต์ดอมินิก
1526 ถนน เพชรบุรีตัดใหม่ แขวง มักกะสัน เขต ราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
E-mail : [email protected]
Tel. 02-6527477-80 Fax. 02-652-7777
Saint Dominic School