LINE ปล่อยฟีเจอร์ยกเลิกข้อความที่อายุไม่เกิน 24 ชม.

LINE ปล่อยฟีเจอร์ยกเลิกข้อความที่อายุไม่เกิน 24 ชม.

Weekly News

  Naver เจ้าของแอปแชทยอดฮิตอย่าง Line ได้ประกาศข่าวดีสำหรับคนที่ชอบมือลั่น ส่งข้อความพลาดแล้วครับ ต่อไปนี้เราจะสามารถ “unsend” หรือยกเลิกข้อความที่ส่งไปแล้วได้ นื่ถือเป็นข่าวดีสำหรับคนที่ชอบมือลั่นหลายๆ คน ที่อาจจะอยากกดส่งสติ๊กเกอร์กวนๆ แต่กลับแตะผิดจุดไปโดนสติ๊กเกอร์รูปหัวใจใหญ่ยักษ์ ทำให้คนที่คุยด้วยเข้าใจผิดคิดว่าเราจีบเขาอยู่ เงื่อนไขในการยกเลิกข้อความก็คือ ข้อความนั้นต้องถูกส่งไปภายในระยะเวลาไม่เกิน 24 ชม. โดย Line ได้มีการสนับสนุนฟีเจอร์ใหม่นี้ ผ่านอีเวนท์ที่ชื่อว่า “Black Friday” ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 24 โดยเป็นกิจกรรมที่ให้ผู้ใช้ Line ได้โพสต์เหตุการณ์ หรือภาพที่ส่งข้อความผิดไปสู่คนอื่นลงบนโลกโซเชียล พร้อมกับแฮชแทค #LINE誤爆 (หมายถึงข้อความที่ส่งผิด) เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองต่อการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่หลายๆ คนคงได้ใช้ประโยชน์ครับ   ทางด้าน WhatsApp ที่มี Facebook เป็นเจ้าของก็ได้ปล่อยฟีเจอร์คล้ายๆ กันนี้ออกมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว โดยทำให้ผู้ใช้สามารถลบข้อความที่ไม่ได้ตั้งใจส่งได้ อย่างไรก็ตามฟีเจอร์นี้ไม่ได้ป้องกันกรณีที่ฝ่ายตรงข้ามเห็นข้อความทันที นอกจากนี้คู่สนทนาของเรายังรับรู้ได้อีกด้วยว่า เราได้ทำการยกเลิกข้อความไป เพราะฉะนั้นก็ควรระวังกันด้วยครับ ที่มา : https://www.beartai.com/news/itnews/206300 VIEW MORE

Read more
มลภาวะทางแสง: ความมืดที่หายไปในหลายประเทศ

มลภาวะทางแสง: ความมืดที่หายไปในหลายประเทศ

Weekly News

ผลการศึกษาภาพถ่ายโลกในเวลากลางคืน ชี้ว่าแสงสว่างจากหลอดไฟ กำลังเพิ่มขึ้นและครอบคลุมบริเวณกว้างขึ้นทุกปี โดยระหว่างปี 2012 และ 2016 มีพื้นที่กลางแจ้งที่มีไฟส่องสว่างเพิ่มขึ้นกว่า 2% ต่อปี ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ระบุว่า “ความมืดในช่วงกลางคืนที่หายไป” ในหลายประเทศ กำลังส่งผลเสียต่อ “พืช สัตว์ และมนุษย์” ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการไซแอนซ์ แอดวานซ์ส์ (Science Advances) อาศัยข้อมูลจากเครื่องวัดรังสีที่ติดตั้งบนดาวเทียมของนาซา ซึ่งออกแบบมาเพื่อวัดค่าแสงในเวลากลางคืนโดยเฉพาะ ภาพถ่ายแสดงให้เห็นว่าแสงสว่างที่เปลี่ยนไป มีความตากต่างกันเมื่อเปรียบเทียบเป็นรายประเทศ โดยบางประเทศที่ส่องสว่างเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกอยู่แล้วอย่างสหรัฐฯ และสเปน ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ประเทศส่วนใหญ่ในอเมริกาใต้ แอฟริกา และเอเชียมีแสงสว่างเพิ่มขึ้น และมีเพียงไม่กี่ประเทศที่มืดลง เช่น เยเมน และซีเรีย ซึ่งทั้งคู่อยู่ในภาวะสงคราม ภาพถ่ายดาวเทียมจากเวลากลางคืน แสดงให้เห็นเส้นชายฝั่งและเครือข่ายของเมืองที่อาจดูสวยงาม แต่แสงไฟเหล่านี้ ก่อให้เกิดผลกระทบที่คาดไม่ถึงต่อสุขภาพของมนุษย์ และสิ่งแวดล้อม เรายังต้องการความมืดตามธรรมชาติ ในปี 2016 สมาคมแพทย์แห่งอเมริกา ยอมรับอย่างเป็นทางการถึง “ผลเสียจากแสงไฟแอลอีดีที่ออกแบบมาไม่ได้คุณภาพและมีความเข้มข้นสูง” โดยได้ส่งเสริมให้ประชาชน ลดและควบคุมแสงไฟสีฟ้าในสภาพแวดล้อม ด้วยการลดค่าความสว่างของไฟสีฟ้าไม่ให้จ้าเกินไป เนื่องจากฮอร์โมนเมลาโทนินซึ่งทำให้ง่วงนอนจะอ่อนไหวต่อแสงสีฟ้า ผลการศึกษาเมื่อไม่นานมานี้จากวารสารวิชาการเนเจอร์ เผยว่าแสงจากหลอดไฟ

Read more
”โอมูอามูอา” ดาวเคราะห์น้อยรูปทรงยาวรีประหลาด

”โอมูอามูอา” ดาวเคราะห์น้อยรูปทรงยาวรีประหลาด

Weekly News

นักวิทยาศาสตร์ระบุว่า พบดาวเคราะห์น้อยรูปทรงยาวที่สุดที่เคยพบมา เมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งความเร็วในการเคลื่อนที่ และทิศทางทำให้เชื่อว่า หินอวกาศขนาดใหญ่นี้ น่าจะมีต้นกำเนิดมาจากระบบสุริยะอื่น นักดาราศาสตร์ ต้องเร่งสังเกตและบันทึกข้อมูลของดาวเคราะห์น้อยที่ชื่อว่า ‘โอมูอามูอา’ (Oumuamua) ก่อนที่มันจะพ้นไปจากระยะของกล้องโทรทรรศน์ โดยเชื่อว่ามันมีรูปทรงยาว โดยที่มีความยาวอย่างน้อย 10 เท่าของความกว้าง ซึ่งเป็นสัดส่วนที่แปลกกว่าหินอวกาศที่พบได้ในระบบสุริยะของโลก จากการสังเกตผ่านกล้องโทรทรรศน์เวรี ลาร์จ เทเลสโคป ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศชิลี ดร.คาเรน มีช จากสถาบันดาราศาสตร์ ที่ฮอนโนลูลู ฮาวาย และทีมงานระบุว่า ดาวเคราะห์น้อย ยาว 400 เมตร หมุนรอบตัวเองอย่างรวดเร็ว และมีความสว่างผันแปรได้อย่างมาก ซึ่งคุณสมบัตินี้บ่งชี้ถึงรูปร่างที่แปลกประหลาดของโอมูอามูอา ดร. มีชกล่าวว่า “เมื่อพิจารณาฐานข้อมูลกราฟแสงของดาวเคราะห์น้อยที่เรามีอยู่ พบว่ามีดาวเคราะห์น้อยเพียง 5 ดวง จากทั้งหมด 20,000 ดวง ที่มีกราฟแสงแบบชี้ว่าน่าจะมีรูปทรงในอัตราส่วนแกนกว้างยาวประมาณ 7-8 ต่อ 1” “ค่าความผิดพลาดในการคำนวณของเราต่ำมาก ดังนั้น เรามั่นใจว่าวัตถุมีรูปทรงยาว แต่เราไม่รู้ว่าแกนหมุนชี้ไปทางไหน อย่างไรก็ตามเราสันนิษฐานว่าแกนหมุนทำมุมฉากกับเส้นสายตา แต่หากดาวเคราะห์น้อยมีแกนหมุนเอียงลาด

Read more
กด Likeโฆษณาใน Facebook ภัยเงียบที่ร้ายแรงเกินคาดคิด

กด Likeโฆษณาใน Facebook ภัยเงียบที่ร้ายแรงเกินคาดคิด

Weekly News

  การวิจัยล่าสุดพบว่า โฆษณาที่ปรากฏบน Facebook จะแตกต่างออกไปโดยอ้างอิงจากคุณลักษณะทางจิตวิทยาของผู้ใช้แต่ละคน ซึ่งทำให้มีโอกาสที่ผู้ใช้จะกดดูโฆษณามากขึ้น 40% หรือซื้อสินค้ามากขึ้น 50% การกด Like อาจร้ายแรงกว่าที่คิด การประเมินทางจิตวิทยาดังกล่าวนั้น สร้างขึ้นการรูปแบบการกด Like ของผู้ใช้ Facebook แต่ละคน ซึ่ง Sandra Matz ศาสตราจารย์ของโรงเรียนธุรกิจ Columbia Business School (CBS) ได้กล่าวด้วยความวิตกว่า “วิธีดังกล่าวนี้ สามารถส่งผลทางจิตใจในการตัดสินใจต่อสิ่งที่ตนสนใจ ตั้งแต่การซื้อสินค้าด้วยเงินจำนวนไม่มาก ไปจนถึงการไม่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งเลยก็ได้” Sandra Matz และทีมงาน ได้ใช้แคมเปญการโฆษณาของ Facebook ผ่านกลุ่มผู้ใช้จำนวน 3.5 ล้านยูสเซอร์ ซึ่งส่วนหใหญ่เป็นผู้หญิงอายุระหว่าง 18 – 40 ปี ในประเทศอังกฤษ จากหลากหลายบริษัทที่ได้รับการคัดเลือกไว้ พบว่า แม้แต่เรื่องที่สะกิดใจเพียงเล็กน้อย ก็ส่งผลถึงโอกาสในการที่จะคลิกดูโฆษณาและเลือกซื้อสินค้าได้ เธอกล่าวว่า การกำหนดเป้าหมายการโฆษณาด้วยวิธีเชิงจิตวิทยานั้น ก็มีข้อดีด้วยเช่นกัน โดยหลายบริษัทสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ต้องการได้มากขึ้น เช่น กลุ่มผู้ให้การดูแลด้านสุขภาพ

Read more
แค่หยุดกินกาแฟก็ซื้อ iPhone X ได้สบายๆ!

แค่หยุดกินกาแฟก็ซื้อ iPhone X ได้สบายๆ!

Weekly News

  หลายๆ คนเมื่อเห็นราคาของ iPhone X ก็อาจจะร้องไม่ออกเมื่อราคาเริ่มต้นนั้นอยู่ที่ $999 ในขณะที่รุ่นท็อปนั้นสูงถึง $1,149 ซึ่งเป็นราคาที่ทำให้หลายๆ คนไม่กล้าซื้อเนื่องจากกว่าจะหาเงินมาได้ ซื้อปุ๊บเงินก็หายแว็บไปกับตา อย่างไรก็ตาม Tim Cook ได้ให้สัมภาษณ์ระหว่างวันแรกที่เปิดจำหน่าย iPhone X ใน Apple Store สาขา Palo Alto ว่าราคาของ iPhone X ก็เท่ากับการซื้อกาแฟดีๆ ในแต่ละวันหรือแค่หยุดกินกาแฟแล้วเปลี่ยนมาซื้อ iPhone X เท่านั้นเอง! นอกจากนี้ Apple ก็มีโปรแกรมที่ให้ผู้ใช้งานนำ iPhone เครื่องเก่ามาเปลี่ยนเป็นเครื่องใหม่ได้ในราคาสูงถึง $350 งานนี้ CEO ถึงกับชี้ทางให้ ใครที่เข้า Starbucks วันละครั้งหรือมากกว่าวันละครั้ง เพียงแค่หยุดเข้าก็สามารถซื้อ iPhone X ได้แล้วนะ ถ้าคิดง่ายๆ iPhone X หนึ่งเครื่องราคา 40,500 บาท (ราคาไทย)

Read more
หินจาก“ชิกซูลุบ”เผยข้อมูลใหม่ฤดูหนาวล้างเผ่าพันธุ์ไดโนเสาร์

หินจาก“ชิกซูลุบ”เผยข้อมูลใหม่ฤดูหนาวล้างเผ่าพันธุ์ไดโนเสาร์

Weekly News

คณะนักธรณีฟิสิกส์นานาชาติ ผู้ขุดเจาะชั้นหินของหลุมอุกกาบาตชิกซูลุบ (Chicxulub) ซึ่งจมอยู่ใต้อ่าวเม็กซิโก เผยถึงผลการศึกษาใหม่เกี่ยวกับฤดูหนาวอันยาวนานที่ไดโนเสาร์ต้องเผชิญ หลังอุกกาบาตยักษ์พุ่งชนโลกเมื่อ 66 ล้านปีก่อน และทำให้เกิดการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ของสิ่งมีชีวิตบนโลก ผลการวิเคราะห์ชั้นหินที่ขุดเจาะขึ้นมาชี้ว่า อุกกาบาตยักษ์ความกว้าง 12 กิโลเมตร พุ่งเข้าหาจุดปะทะจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือด้วยความเร็ว 18 กิโลเมตรต่อวินาที และพุ่งชนพื้นโลกที่บริเวณทะเลตื้นโดยทำมุม 60 องศา ทำให้เกิดหลุมลึกในชั่วพริบตา เนื่องจากหินและแร่ธาตุปริมาณหลายล้านล้านตันระเหยเป็นไอขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ในบรรดาหินที่ระเหยเป็นไอนี้ มีแร่ธาตุอย่างยิปซัมและแอนไฮไดรต์ ซึ่งมีกำมะถันเป็นส่วนประกอบปะปนอยู่ด้วยเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ก็ยังมีแร่ธาตุจำพวกคาร์บอเนต ที่ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้นอีกจำนวนมากด้วย ไอระเหยของแร่ธาตุเหล่านี้ พุ่งขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศด้วยความเร็วสูง โดยมีกำมะถันราว 325 กิกะตัน และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ราว 425 กิกะตันรวมอยู่ด้วย แม้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกและอุณหภูมิที่สูงขึ้นในระยะยาว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นทันทีคือไอกำมะถันซึ่งผสมกับฝุ่นควัน ได้ทำให้อากาศเย็นลงอย่างรวดเร็วและรุนแรง ศาสตราจารย์โจอันนา มอร์แกน นักธรณีฟิสิกส์ผู้นำทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน ในสหราชอาณาจักรบอกว่า ก่อนหน้านี้มีงานวิจัยที่ใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์คำนวณผลของสภาพอากาศที่เกิดขึ้น หากมีไอกำมะถัน 100 กิกะตัน และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 1,400 กิกะตัน ฟุ้งกระจายขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศโลก โดยพบว่าสภาพการณ์เช่นนี้จะทำให้ค่าเฉลี่ยของอุณหภูมิอากาศที่พื้นผิวโลกทั้งปี ลดลงอย่างน้อย 26 องศาเซลเซียส

Read more
ช่องว่างปริศนาในพีระมิดกีซาคือห้องลับแห่งใหม่แน่หรือ ?

ช่องว่างปริศนาในพีระมิดกีซาคือห้องลับแห่งใหม่แน่หรือ ?

Weekly News

ข่าวการค้นพบช่องว่างปริศนาขนาดใหญ่เท่าเครื่องบินพาณิชย์ ในมหาพีระมิดแห่งเมืองกีซาของอียิปต์ สร้างความฮือฮาอย่างมากแก่วงการวิทยาศาสตร์และโบราณคดี โดยหลายคนคาดว่าอาจเป็นการค้นพบห้องลับแห่งใหม่ที่เก่าแก่กว่า 4,500 ปี นอกเหนือไปจากห้องเก็บพระศพฟาโรห์คูฟูและพระมเหสีที่ค้นพบก่อนหน้านี้แล้ว 2 ห้อง ช่องว่างดังกล่าวตั้งอยู่เหนือบริเวณห้องโถงใหญ่ภายในพีระมิดที่เรียกว่า แกรนด์ แกลเลอรี (Grand gallery) และดูเหมือนว่าจะไม่มีช่องทางเข้าถึงได้จากภายนอก โดยประมาณการว่ามีความกว้างราว 30 เมตรและสูงหลายเมตร คณะผู้ค้นพบยังไม่แน่ใจว่าช่องว่างนี้มีลักษณะการวางตัวอยู่ในแนวราบหรือลาดเอียง ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติในโครงการ “สแกนพีระมิด” (ScanPyramids) ซึ่งนำโดยนายคุนิฮิโระ โมริชิมะ จากมหาวิทยาลัยนาโงยาของญี่ปุ่น ใช้เวลาศึกษาโครงสร้างของมหาพีระมิดแห่งกีซา 2 ปี และตีพิมพ์ผลงานลงเผยแพร่ในวารสารเนเจอร์ โดยระบุว่าใช้วิธีสแกนโครงสร้างภายในของพีระมิดแบบ “มิวโอกราฟี” (Muography) หรือการสร้างภาพด้วยอนุภาคมิวออน โดยไม่จำเป็นต้องแตะต้องหรือเคลื่อนย้ายหิน ซึ่งเสี่ยงสร้างความเสียหายให้แก่ตัวพีระมิดเลยแม้แต่น้อย มิวออน (Muons ) คืออนุภาคพลังงานสูงที่เกิดขึ้นเมื่อรังสีคอสมิกจากอวกาศปะทะเข้ากับชั้นบรรยากาศโลก อนุภาคมิวออนสามารถทะลุทะลวงผ่านก้อนหินหนา แต่จะถูกดูดซับเอาไว้ในก้อนหินได้บ้าง คิดเป็นสัดส่วนมากน้อยตามความหนาแน่นของหินที่ต่างกันไป ทำให้นักวิทยาศาสตร์สามารถติดตั้งเครื่องตรวจจับอนุภาคมิวออนไว้โดยรอบพีระมิด เพื่อดูว่ามีปริมาณของมิวออนที่ทะลุทะลวงก้อนหินออกมาเท่าใดในแต่ละจุด ซึ่งเมื่อนำข้อมูลมาทำแผนที่ประกอบกันแล้วจะช่วยให้ทราบถึงลักษณะของโครงสร้างในส่วนต่าง ๆ ของพีระมิดได้   ช่องว่างแห่งนั้นสำคัญไฉน ? มหาพีระมิดเมืองกีซาสร้างขึ้นในสมัยของฟาโรห์คูฟู ระหว่าง 2509-2483 ปีก่อนคริสตกาลเพื่อใช้เก็บพระศพ มีความสูง

Read more
สารเลียนแบบเลือดมังกรโคโมโดฆ่าเชื้อดื้อยาได้

สารเลียนแบบเลือดมังกรโคโมโดฆ่าเชื้อดื้อยาได้

Weekly News

นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยจอร์จ เมสัน ของสหรัฐฯ คิดค้นสารสังเคราะห์ที่เลียนแบบการทำงานของเลือดมังกรโคโมโด แล้วนำไปทดสอบในหนูทดลอง พบว่าสารดังกล่าวสามารถฆ่าเชื้อดื้อยารุนแรง หรือที่รู้จักกันในชื่อของ “ซูเปอร์บั๊ก” ได้เป็นผลสำเร็จถึงสองชนิดด้วยกัน มังกรโคโมโดซึ่งพบได้เฉพาะบนเกาะ 5 แห่งของอินโดนีเซีย และเป็นสัตว์เลื้อยคลานจำพวกตุ๊กแกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกนั้น มีแบคทีเรียในน้ำลายถึงกว่า 80 ชนิด ซึ่งทำให้คนหรือสัตว์ที่ถูกกัดเกิดอาการโลหิตเป็นพิษได้ แต่ตัวของมันเองกลับไม่เป็นอันตรายจากการติดเชื้อ ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ว่าในร่างกายของมันมีภูมิต้านทานเชื้อที่แข็งแกร่ง ผลการศึกษาดังกล่าวเผยแพร่ในวารสาร NPJ Microfilms and Microbiomes โดยระบุว่าทีมวิจัยได้สังเคราะห์โปรตีน DRGN-1 ขึ้นโดยเลียนแบบโครงสร้างและการทำงานของสารฆ่าเชื้อที่พบในเลือดของมังกรโคโมโด และต่อมาได้ทดลองนำโปรตีนสังเคราะห์นี้ไปใช้รักษาแผลติดเชื้อในหนูทดลอง พบว่าสามารถรักษาแผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียกลุ่ม MRSA ซึ่งเป็นเชื้อที่ดื้อยารุนแรงและไม่ตอบสนองต่อยาปฏิชีวนะที่มีอยู่ในปัจจุบันได้สองชนิด เชื้อแบคทีเรียซูเปอร์บั๊กที่ถูกกำจัดได้สำเร็จในครั้งนี้ ได้แก่เชื้อ Pseudomonas aeruginosa และ Staphlyococcus aureus ซึ่งยาปฏิชีวนะทั่วไปไม่สามารถกำจัดได้ เนื่องจากเชื้อทั้งสองชนิดมักจับตัวกันเป็นกลุ่มแน่นหนา ซึ่งทำให้ยาเข้าทำลายได้ยากกว่าเชื้อที่แบคทีเรียที่อยู่เป็นเซลล์เดี่ยว ผลการทดลองยังพบว่า นอกจากโปรตีนสังเคราะห์ DRGN-1 จะสามารถฆ่าเชื้อซูเปอร์บั๊กได้แล้ว ยังทำให้แผลหายเร็วโดยช่วยในการเคลื่อนย้ายเซลล์ผิวหนังมาปิดแผลได้มากขึ้นด้วย ผู้เชี่ยวชาญมองว่าผลการทดลองนี้เป็นข่าวดีสำหรับการปูทางไปสู่การคิดค้นยาปฏิชีวนะรุ่นใหม่ ซึ่งจะนำมาใช้ต่อต้านเชื้อดื้อยารุนแรงได้หลายชนิดในอนาคต   ที่มา – http://www.bbc.com/thai/international-39607486   VIEW MORE

Read more
Samsung Gear Sport และ Gear IconX มาแล้ว

Samsung Gear Sport และ Gear IconX มาแล้ว

Weekly News

หลังจากมีให้ลองใน Galaxy Studio มานานในที่สุด Samsung ไทยได้เปิดตัว Gear Sport และ Gear IconX อุปกรณ์ที่ช่วยให้ชีวิตของคุณสะดวกยิ่งขึ้นและยังช่วยเสริมสุขภาพให้ดีขึ้น พร้อมประกาศวางขายภายในเดือน พฤศจิกายน นี้ โดย Gear Sport คือ นาฬิกา smartwatch ที่มี ฟังก์ชันสำหรับการออกกำลังกายได้หลายรูปแบบ อีกทั้งยังมี GPS ในตัว และสามารถบันทึกผลการออกกำลังกายที่แม่นยำและรองรับแอปที่เกี่ยวกับการออกกำลังกายมากมาย และ Gear Sport มีดีไซน์โดดเด่น ทนทาน สามารถเปลี่ยนสายและหน้าปัดนาฬิกาได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน และยังกันน้ำได้ในระดับ 5ATM (50 เมตร) และยังสามารถ บันทึกผลการเคลื่อนไหวระหว่างวัน , วัดแคลอรี่ที่เผาผลาญ ก้าวเดิน อัตราการเต้นหัวใจ และแจ้งเตือนอัตโนมัติเมื่อไม่เคลื่อนไหวนาน โดนจะมีสีให้เลือก 2 สีได้แก่ ดำ และ น้ำเงิน ราคาเปิดตัวจะอยู่ที่ 9,900 บาท วางขายวันที่  13

Read more
iPhone X จอไม่ตอบสนองเมื่อเจออากาศเย็น

iPhone X จอไม่ตอบสนองเมื่อเจออากาศเย็น

Weekly News

ตัวแทนของ Apple ได้ออกมาเปิดเผยว่าเวลานี้บริษัทได้รับปัญหาร้องเรียนจากผู้ใช้ในสัปดาห์นี้ที่ระบุว่าหน้าจอ iPhone X หยุดการตอบสนอง ไม่สามารถใช้งานทัชสกรีนได้เมื่ออยู่ในสภาวะที่มีอากาศหนาวเย็น ทั้งนี้ Apple ได้เคยให้คำแนะนำการใช้งานอุปกรณ์ iOS ให้อยู่ในพื้นที่อุณหภูมิระหว่าง 0-35 องศาเซลเซียส แต่ก็ยังสมาชิกบางรายจากเว็บไซต์ Reddit ออกมาเปิดเผยปัญหาดังกล่าวแม้ว่าจะใช้ไอโฟนอยู่ในเกณฑ์อุณหภูมิแล้วก็ตาม ทาง Apple เองก็อธิบายปัญหาดังกล่าวว่าหน้าจอ iPhone X อาจมีอาการหยุดตอบสนองชั่วขณะหากอุณหภูมิของแวดล้อมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วกระทันหัน แต่หลังจากนั้นอีกไม่กี่วินาทีก็จะกลับตอบสนองตามปกติ ซึ่งปัญหานี้เกิดจากบั๊กในซอฟต์แวร์และ Apple ยืนยันว่าจะแก้ไขในการอัปเดทครั้งต่อไปครับ ที่มา : https://www.beartai.com/news/mobilenews/204899 VIEW MORE

Read more

Rate Us

Rate our Website !!

Links

St.John Bosco's Bicentenary SAVIO ESPRESSO

CONTACT US

โรงเรียนเซนต์ดอมินิก
1526 ถนน เพชรบุรีตัดใหม่ แขวง มักกะสัน เขต ราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400
E-mail : [email protected]
Tel. 02-6527477-80 Fax. 02-652-7777
Saint Dominic School