Monday
21 Novปลายฝนต้นหนาว …หมั่นดูแลสุขภาพ
อธิบดีกรมการแพทย์ห่วงใยสุขภาพประชาชนช่วงปลายฝนต้นหนาว เตือนกลุ่มเด็กเล็กผู้สูงอายุ เสี่ยงโรคระบบทางเดินหายใจ แนะวิธีปฏิบัติตัวเพื่อรับมือกับปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง
นายแพทย์ธีรพล โตพันธานนท์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ขณะนี้อากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงเนื่องจากเป็นช่วงของการปรับเปลี่ยนฤดูเข้าสู่ฤดูหนาวมีทั้งฝนตก บางช่วงอากาศหนาวเย็นอาจทำให้ร่างกายปรับสภาพไม่ทัน เชื้อโรคหลายชนิดสามารถแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย โดยโรคที่มาพร้อมกับช่วงเวลานี้ที่สามารถพบบ่อย คือ โรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ เช่น หอบหืด หรือหลอดลมอักเสบ โรคไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม มีสาเหตุมาจากรับเชื้อไวรัสที่สามาร เข้าสู่ร่างกายทางจมูก ปากและตาได้โดยง่าย เชื้อชนิดนี้มักอยู่ในละอองเสมหะ น้ำมูกน้ำลายของผู้ป่วยที่ไอ จาม และอาจติดอยู่กับภาชนะหรือพื้นผิวที่เปื้อนน้ำมูก น้ำลายของผู้ป่วยได้สามารถแพร่กระจายอย่างรวดเร็วในสถานที่ที่มีคนแออัด และอากาศถ่ายเทไม่สะดวก โดยผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ปวดศีรษะ น้ำมูกไหล ไอ จาม เจ็บหรือแสบคอ อาจมีอาการหนาวสั่นร่วมด้วย
สำหรับในรายที่เป็นไข้หวัดใหญ่ จะมีอาการรุนแรงกว่าคือ มีไข้สูง ปวดศีรษะปวดเมื่อยบริเวณกล้ามเนื้อ และมักมีอาการคลื่นไส้อาเจียนร่วมด้วย ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงทั้งเด็กเล็กและผู้สูงอายุ เนื่องจากกลุ่มบุคคลเหล่านี้มีภูมิต้านทานโรคต่ำกว่าคนปกติ ผู้ปกครองจึงควรดูแลเด็กและผู้สูงอายุที่อยู่ในบ้านอย่างใกล้ชิดและหากตนเองหรือบุคคลในครอบครัวมีอาการไม่สบายเป็นไข้หวัดมีไข้ ไอ มีน้ำมูกควรให้ผู้ป่วยพักผ่อนอยู่กับบ้าน หากมีความจำเป็นต้องออกไปในสถานที่สาธารณะ ให้ใส่หน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคและหมั่นสังเกตอาการ หากตัวร้อนมาก ให้รับประทานยาลดไข้ ใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดตัว หรือถ้าอาการไม่ดีขึ้น เช่น มีอาการไอมาก แน่นหน้าอก มีไข้นานเกิน 2 วัน ควรรีบไปพบแพทย์
สำหรับแนวทางปฏิบัติเพื่อดูแลสุขภาพในช่วงอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย คือ หมั่นดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอสวมใส่เสื้อผ้าให้เหมาะสมกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในแต่ละวัน ควรงดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากส่งผลให้ระบบภูมิต้านทานโรคในร่างกายต่ำลงทำให้ติดเชื้อได้ง่าย รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ลดหวาน มัน เค็ม ปรุงอาหารให้สุกก่อนการบริโภค ดื่มน้ำสะอาด และรับประทานผักผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น ส้ม ฝรั่ง มะละกอสุก สับปะรด ล้างมือด้วยน้ำสบู่หรือเจลทำความสะอาดทุกครั้ง หลังจากทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ดูหนัง เข้าห้องน้ำ เป็นต้น ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เพราะจะทำให้ร่างแข็งแรงต้านทานต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆได้ เช่นการเดิน การวิ่งเหยาะๆ การปั่นจักรยาน การเล่นกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น นอกจากนี้ควรทำจิตใจให้แจ่มใสไม่เครียด จะทำให้ห่างไกลจากโรคดังกล่าวได้
อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ถ้าประชาชนปฏิบัติตนได้ตามคำแนะนำ จะสามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่างๆได้ ทั้งนี้ประชาชนควรเตรียมพร้อมรับฟังข้อมูลข่าวสารเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด ในส่วนของประชากรกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะเด็กเล็กและผู้สูงอายุ ควรได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลทุกปี ตามสถานบริการสาธารณสุขหรือโรงพยาบาลใกล้บ้านท่านทั่วประเทศ
ที่มา : http://www.thaihealth.or.th