Monday
19 Decปลาทูของดีที่ไม่ควรมองข้าม
ขณะที่เราๆ นั้นเอะอะอะไรก็ปลาแซลมอนกันไปหมด จนลืมปลาทูไทยหน้างอคอหักแถวแม่กลอง ราคาก็ถูกกว่าแซลมอนหลายบาท โอเมก้า 3 ก็เยอะมาก โดยเนื้อปลาทู 100 กรัม จะให้โอเมก้า 3 ประมาณ 2-3 กรัม ซึ่งเพียงพอที่ร่างกายต้องการ
นำปลาทูนึ่งทอดกินกับน้ำพริก ต้มยำปลาทู เมี่ยงปลาทู ปลาทูทอดขมิ้น ฉู่ฉี่ปลาทู เยอะแยะได้อีกหลายเมนู แล้วยังมากมายด้วยคุณค่าอีกด้วย เพียงแต่บางเมนูจะทำลายโอเมก้า 3 ไปมากด้วยความร้อนสูง เราจึงต้องเลือกกันหน่อยว่าจะนำปลาทูมาทำอะไรกินกันดีเพื่อให้ได้โอเมก้า 3 กันเต็มๆ
ปลาทูทอด การทอดปลาทูในน้ำมันจะทำให้โอเมก้า 3 ถูกทำลาย ละลายหายไปอยู่ในน้ำมัน ดังนั้นจึงอาจทอดปลาทูด้วยไฟกลางในน้ำมันแบบแค่พอเปื้อนกระทะเพื่อให้น้ำมันร้อนๆ ทำให้หนังปลาทูพองเหลืองน่ากิน
ต้มยำปลาทูสด เป็นเมนูที่นอกจากจะได้คุณค่าของปลาทูแล้ว ยังได้ซดน้ำที่อุดมไปด้วยคุณค่าจากสมุนไพร เช่น ตะไคร้ ข่า หอมแดง ใบมะกรูด ผักชีฝรั่ง น้ำมะขามเปียก น้ำมะนาว และพริกขี้หนู แบบนี้คุณค่าเต็มเปี่ยมไม่ไปไหนแน่
เมี่ยงปลาทู เป็นเมนูโอเมก้า+สมุนไพร ที่อร่อยเต็มคำ เต็มคุณค่า
ยำปลาทู-ขนมจีน เป็นเมนูแนะนำ ที่อิ่มแบบไม่ต้องมีข้าวสวย แล้วโอเมก้า 3 ยังไม่ถูกทำลายด้วยความร้อนสูงอีกด้วย เพราะเราจะใช้ปลาทูนึ่งมาแกะเนื้อยำกับสารพัดสมุนไพรอย่างตะไคร้ ผักชีฝรั่ง หอมแดง บีบมะนาว น้ำปลา แล้วคลุกเข้ากับขนมจีน เติมน้ำปลาและมะนาว พริกขี้หนูซอยเพิ่มให้ได้รสยิ่งขึ้น
คุณค่าในปลาทู มีตั้งแต่ วิตามินดี ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัส เพื่อไปซ่อมแซมกระดูกและฟัน รักษาระบบประสาท การทำงานของหัวใจ
ไอโอดีน ส่วนประกอบสำคัญของฮอร์โมน ควบคุมการทำงานของร่างกายให้เจริญเติบโตอย่างปกติ
กรดอะมิโนโปรตีน ที่จำเป็นต่อร่างกายสูงกว่าปลาชนิดอื่น โดย เฉพาะไลซีน ที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ กระดูก เส้นเอ็น และข้อ ส่วนทรีโอนีน ซึ่งจำเป็นต่อความเจริญเติบโตในวัยเด็ก
โอเมก้า 3 ประโยชน์จากโอเมก้า 3 ต่อร่างกายนั้นมากมาย เช่น ช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ เนื่องจากช่วยป้องกันการเกิดก้อนไขมันในสมอง ช่วยลดภาวะการอักเสบของร่างกาย ช่วยเพิ่มศักยภาพการเรียนรู้ เพิ่มสมาธิ ความจำ และปรับสมดุลอารมณ์
ข้อควรระวัง หญิงมีครรภ์ไม่ควรรับประทานปลาทู รวมถึงปลาและสัตว์น้ำประเภทอื่นมากจนเกินไป เพราะเป็นอันตรายต่อพัฒนาการสมองของเด็กในครรภ์โดยสารเมธิลเมอร์คิวรี่ ซึ่งเกิดจากน้ำเสียที่ถูกปล่อยจากโรงงานอาจปนเปื้อนในตัวปลา
ปลาทูอร่อยต้องเป็นปลาทูในช่วงเดือน 8-11 โดยเฉพาะปลาทูแม่กลอง เพราะเป็นช่วงน้ำหลาก ทำให้ระบบนิเวศสามน้ำนำความสมบูรณ์มาเป็นอาหารของปลา จึงทำให้ปลาทูที่จับได้ในช่วงเดือนนี้มีเนื้ออร่อยที่สุด แต่ถึงยังไงเราก็ยังควรกินปลาทูกันตลอดทั้งปีด้วยนะ ไม่จำเป็นต้องรอกินเฉพาะช่วงอร่อยเท่านั้น เพื่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพสมองด้วย
ที่มา: http://www.thaihealth.or.th/Content/34455-‘ปลาทู’%20ของดีที่ไม่ควรมองข้าม.html